Skip to content

10 อันดับแรกในไทย

สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อ

Menu
Menu
เลซิติน กิฟฟารีน

เลซิติน กิฟฟารีน

Posted on September 27, 2022

ด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนัก การทานอาหารขยะ หรือการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ล้วนทำให้เราเกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆมากมาย วันนี้เราจะมาแนะนำตัวช่วยในเรื่องของสุขภาพ ก็คือ เลซิติน กิฟฟารีน

เลซิติน คืออะไร

เลซิติน (Lecithin) คือสารประกอบระหว่างกรดไขมันจำเป็น ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 2 ตัว ได้แก่ โคลีน(Choline) และอินอสซิตอล (Inositol) สามารถพบเลซิตินได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ สำหรับร่างกายของมนุษย์นั้น จะพบมากในอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองมีเลซิตินเป็นส่วนประกอบมากถึง 30% ซึ่งเลซิตินจำเป็นต่อการควบคุมกระบวนการต่างๆ ภายในเซลล์ ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วเราจะได้รับเลซิตินจากอาหารทั่วไป แต่อาจไม่เพียงพอที่ร่างกายต้องการ

มารู้จัก เลซิติน กิฟฟารีน

เลซิติน กิฟฟารีน (Lecithin Giffarine) ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามินอี ดูแลตับได้ 100%

เช็คราคาพร้อมส่วนลดได้ที่ Lazada

เลซิติน กิฟฟารีน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี ชนิดแคปซูลนิ่ม

ยี่ห้อกิฟฟารีน
ปริมาณบรรจุ60 แคปซูล
รูปแบบผลิตภัณฑ์แคปซูลแบบนิ่ม
ส่วนประกอบสำคัญเลซิติน 1,200 มก. (ประกอบไปด้วยฟอสฟาติดิลโคลีน 192 มก.)
มีเดียมเซนไตรกลีเซอร์ไรด์ 266.4 มก.
มิกซ์แคโรทีนอยด์ 20.0 มก.
ดีแอลฟาโทโคฟริลอะซีเตต 13.6 มก.(ให้วิตามินอี 14.96 IU)

เน้นการดูแลตับ ปกป้องตับจากการเกิดภาวะไขมันพอกตับ สารฟอสฟาทิดิลโคลีน ในเลซิติน มีบทบาทในการบำรุงตับ โดยช่วยในการกำจัดไขมันออกจากเซลล์ตับ ยับยั้งการสะสมไขมันในเซลล์ตับ
เหมาะสำหรับ
✔️ ผู้ที่ต้องการการบำรุงตับ
✔️ ผู้ที่ต้องการการบำรุงสมอง
✔️ ผู้ที่ต้องการการปกป้องหลอดเลือดและหัวใจ
✔️ ผู้ที่ต้องการการบำรุงผิวพรรณ
✔️ ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
ปัจจุบันทางการแพทย์ได้ใช้เลซิตินในการบำบัดโรคทางสมองต่าง ๆ เช่น

  • พาร์กินสัน (Parkinson’s)
  • อัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease)
  • โรคทางสมองที่เกิดจากเซลล์ประสาทขาดสาร Acetylcholine หรือคนชราที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม

มีงานวิจัยพบว่า ผู้ป่วยบางคนอาจจะมีอาการดีขึ้นเมื่อได้รับประทานเลซิตินวันละ 25 กรัม เป็นเวลาหลาย ๆ เดือนติดต่อกัน และการศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s Disease) พบว่าการให้โคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือนจะช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา (Cholinesterase Inhibitors) ก็ทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย

สภาพสังคมในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เกิดความเครียดสูง ทำให้เกิดอาการหลงลืม หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอารมณ์เสียง่าย ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเส้นประสาทเสื่อมได้ อาการดังกล่าวอาจบำบัดได้โดยการรับประทานเลซิติน

ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล (1,900 มก.)
ประกอบด้วย : เลซิติน 1,200 มก. (ประกอบไปด้วยฟอสฟาติดิลโคลีน 192 มก.)
มีเดียมเซนไตรกลีเซอร์ไรด์ 266.4 มก.
มิกซ์แคโรทีนอยด์ 20.0 มก.
ดีแอลฟาโทโคฟริลอะซีเตต 13.6 มก.(ให้วิตามินอี 14.96 IU)

วิธีใช้ : ทานวันละ 1 – 2 แคปซูล หลังอาหาร
มี 2 ขนาดบรรจุให้เลือกตามต้องการ

  1. บรรจุ 60 แคปซูล
    น้ำหนักรวม : 185 กรัม
  2. บรรจุ 30 แคปซูล
    น้ำหนักรวม : 95 กรัม

เลซิติน กิฟฟารีน บำรุงตับ ป้องกันตับแข็งลดไขมันพอกตับ

เลซิติน (Lecithin) พบมากใน ไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง จมูกข้าวสาลี ซึ่งส่วนใหญ่อาหารที่มี เลซิตินสูง เช่น ไข่แดงก็มักจะมีคอเลสเตอรอลสูงด้วย ดังนั้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินจึงมักจะสกัดเลซิตินจากถั่วเหลือง เนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง และปราศจากไขมันพวกคอเลสเตอรอล

ประโยชน์ของเลซิติน

ปัจจุบันมีการนำเลซิตินมาใช้มากมายเพื่อสุขภาพ ในวงการแพทย์ได้มีการศึกษาวิจัยพบว่า เลซิตินสามารถช่วยให้ลำไส้ลดการดูดซึมไขมันคอเรสเตอรอล และช่วยให้ขับถ่ายไขมันออกมาทางอุจจาระมากขึ้น สามารถทำให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ โครงสร้างของเลซิตินยังมีสารประกอบที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งคือ โคลีน (Choline) ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญของสมองคือ Acetylcholine หากร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะป้องกันและรักษาอาการผิดปกติของระบบประสาทบางประเภทได้

ตับเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่สำคัญหลายประการ เมื่อใดก็ตามที่ตับทำงานไม่เป็นปกติ เช่น ไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง จะเกิดอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ภูมิต้านทานต่ำ ขาดโปรตีน บวม เลือดออกง่าย แผลหายช้า น้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติ ไขมันในเลือดสูง ท้องมาน อาการทางสมอง ไตวาย หัวใจวาย และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายในทุกระบบ

  • ดูแลตับ ปกป้องตับจากการเกิดภาวะไขมันพอกตับ บำรุงตับ ป้องกันตับอักเสบ ป้องกันตับแข็ง
  • ลดภาวะไขมันพอกตับ มีการศึกษากับผู้ป่วยที่ต้องได้รับอาหารทางหลอดเลือดดำโดยตรงเป็นเวลานาน
  • ป้องกันโรคตับจากแอลกอฮอล์ มีการศึกษาในลิงบาบูนพบว่า เลซิตินสามารถป้องกันการเกิดโรคตับแข็ง
  • บำรุงสมอง ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เสริมสร้างความจำ และลดอาการอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้น
  • ลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ดูแลหลอดเลือดและหัวใจละลายไขมัน ป้องกันการตกตะกอนของไขมันในผนังหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดเลือดแข็งและตีบตัน ป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เลซิตินจะเพิ่มความสามารถในการทำละลายของน้ำดี ทำให้สารแขวนลอยในน้ำดีไม่จับตัวเป็นก้อนจนกลายเป็นนิ่ว เพิ่มการหลั่งและการไหลเวียนของน้ำดี และลดค่าดัชนีไขมันอิ่มตัว (Cholesterol saturation index)
  • ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันสะสม โดยช่วยละลายไขมัน จึงเผาผลาญไขมันได้ดี

คำเตือนเรื่องการรับเลซิตินมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม การได้รับเลซิตินเพียงอย่างเดียว อาจแก้ปัญหาทางสุขภาพได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากถึงแม้ว่า เลซิตินจะช่วยลดการสะสมไขมันที่ตับและผนังหลอดเลือดได้ แต่ยังคงหลงเหลือไขมันบางส่วนที่ยังสะสมอยู่ในเซลล์ดังกล่าว และยังมีไขมันบางส่วนในกระแสเลือดที่มีโอกาสเกิดการสะสมพอกพูนได้เพิ่มเติม ดังนั้น ร่างกายจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงเพิ่มเติม เพื่อปกป้องไขมันเหล่านี้ไม่ให้เกิดการออกซิเดชั่น และลดการอักเสบของเซลล์ จึงลดโอกาสการเกิดไขมันพอกตับและผนังหลอดเลือดได้อีกทางนั่นเอง

กิฟฟารีนได้นำมาผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP ผ่านการตรวจวิเคราะห์แล้วว่าปลอดเชื้อโรคปลอดสารพิษปลอดโลหะหนักจึง ปลอดภัย100%

ศึกษาเลซิตินเพิ่มเติมได้จากคลิปด้านล่าง

เลซิติน กิฟฟารีน (Lecithin) ช่วยบำรุงสมอง เสริมความจำ

    จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ ‘อเดลล์ เดวิส’ นักโภชนาการชาวสหรัฐฯ ได้รายงานว่าในร่างกายของคนที่มีสุขภาพดีจะมีสารเลซิตินอยู่ในสมองถึง 30% ของน้ำหนักทั้งหมด เลซิตินจึงมีความสำคัญต่อการบำรุงสมอง
       ในปี 1975 นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันเทคโนโลยี Massachusetts ค้นพบว่าโคลีนในเลซิติน เป็นสารจำเป็นที่ร่างกายจะนำไปใช้เพื่อสร้างสารสื่อประสาท (Neurotransmitters) ที่เรียกว่า อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ที่จะช่วยในการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมองแต่ละเซลล์ และระหว่างสมองกับการสั่งงานไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และทำหน้าที่ในการถ่ายทอดข้อมูลและความรู้สึกเพื่อให้แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของสมอง
       ปัจจุบันการรักษาทางการแพทย์ได้ใช้เลซิตินในการบำรุงสมอง และบำบัดโรคทางสมองต่าง ๆ เช่น Parkinson’s Disease, Alzheimer’s Disease, Tardive Dyskinesia ซึ่งเป็นโรคทางสมอง ที่เกิดจากเซลล์ประสาทขาดสาร Acetylcholine หรือคนชราที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม พบว่าบางคนอาจจะมีอาการดีขึ้นเมื่อได้รับประทานเลซิติน วันละ 25 กรัม เป็นเวลาหลาย ๆ เดือนติดต่อกัน และการศึกษาในผู้ที่เป็นโรคความจำเสื่อม (Alzheimer’s Disease) ระยะเริ่มแรก พบว่าการให้โคลีนเป็นระยะเวลา 6 เดือนจะช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ หรือการให้โคลีนร่วมกับยาที่ใช้รักษา (Cholinesterase inhibitors) ก็ทำให้มีการพัฒนาความสามารถที่ต้องใช้ความจำด้วย
       สภาพสังคมในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะเกิดความเครียดสูง หลงลืม หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอารมณ์เสียง่าย ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเส้นประสาทเสื่อม พบว่าอาการดังกล่าวอาจบำบัดได้โดยการรับประทานเลซิติน

Related posts:

อายุ 40 กินคอลลาเจนตัวไหนดี
  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

Recent Posts

  • ผ้าคลุมรถ กันแดด ฝน ลม สุดคุ้ม ยี่ห้อไหนใช้แล้วดีที่สุด
  • สีย้อมผมเบอริน่า – ไอเดียสีย้อมผมสุดปัง
  • อายุ 40 กินคอลลาเจนตัวไหนดี
  • เลซิติน กิฟฟารีน
  • Broadline แมว

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • October 2022
  • September 2022

Categories

  • ความงาม
  • รถยนต์
  • สัตว์เลี้ยง
  • สุขภาพ
©2023 10 อันดับแรกในไทย | Design: Newspaperly WordPress Theme